10 ที่เที่ยวในเมืองกาญจน์ ต้องห้าม❌พลาด
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=Opb5uoMSxyU
1. สะพานข้ามแม่น้ำแคว
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=Opb5uoMSxyU
1. สะพานข้ามแม่น้ำแคว
เมื่อมาถึง กาญจนบุรี หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่เรานึกถึงเป็นลำดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ทางรถไฟที่ดูแข็งแกร่งทอดตัวยาวข้ามแม่น้ำประมาณ 300เมตร แลนด์มาร์คของเมืองกาญจน์ดูช่างเป็นงานก่อสร้างที่น่าภาคภูมิใจแต่เบื้องหลังของมันนั้นกลับต้องแลกมาด้วยชีวิตของผู้คนอย่างมหาศาลในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ ที่ต้องใช้หยาดเหงื่อแรงงาน รวมทั้งชีวิตของเชลยศึกพันธมิตรนับหมื่นคน เพื่อให้ได้มาซึ่งทางรถไฟที่มีความยาว ถึง 415 กิโลเมตร เริ่มต้นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุก จ.ราชบุรี ไปสู่ปลายทาง ที่เมืองทันบูซายัค ประเทศพม่า สำหรับใช้ลำเลียงอาวุธ และกำลังพลเพื่อไปโจมตีพม่าและอินเดีย
ไฮไลท์ในการมาเที่ยวที่นี่ก็คือ การได้มาเดินบนรางรถไฟบนสะพานข้ามแม่น้ำแควซึ่งมีระยะทาง 300 เมตร ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินบนรางรถไฟ ชมความงามของสองฝากฝั่งแม่น้ำแควได้ แต่ต้องระวังสัญญาณหากทีรถไฟผ่านมา
2.วัดถ้ำเสือ
วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่บนเนินเขาใน ต.ท่าม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ก่อนที่จะเข้าสู่ตัวเมืองกาญจนบุรี มีชื่อเสียงเลื่องลือในความสวยงามของพระรูปองค์ใหญ่หลวงพ่อชินน์ประทานพร องค์พระสูง 9 วา 9 นิ้ว หน้าตักกว้าง 5 วา 3 ศอก 9 นิ้ว สีทองอร่าม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2516และ “พระเจดีย์เกษุแก้วมหาปราสาท” เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สีส้ม สูง 69 เมตร กว้าง 29 เมตร สูงใหญ่โดดเด่นอลังการ มีทั้งหมด 9 ชั้น ตรงกลางมีบันไดเวียนสามารถเดินขึ้นไปถึงชั้นบนสุด แต่ละชั้นมีภาพเขียนเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและ พระมหากษัติย์ ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจาก ประเทศอินเดีย และหายเหนื่อยกับวิวจากช่องหน้าต่างของพระเจดีย์ซึ่งมีอยู่รอบทิศ เห็นแม่น้ำแม่กลอง ภูเขา ท้องทุ่งนา และวัดถ้ำเขาน้อยซึ่งอยู่ติดกัน
ถ้ำเสือ
อ้างอิง:http://kanchanaburi.center/
3. ทางรถไฟสายมรณะ
ปัจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเดินรถบนเส้นทางสาย ธนบุรี-น้ำตกทุกวัน และจัดรถไฟขบวนพิเศษสายกรุงเทพฯ - น้ำตก ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ จุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาก คือช่วงสะพานข้ามแม่น้ำแควและช่วงโค้งมรณะหรือ ถ้ำกระแซซึ่งเป็นสะพานโค้งเลียบแม่น้ำแควน้อยยาวประมาณ 400 เมตร ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางนี้สวยงามมาก ที่เส้นทางรถไฟ จะลัดเลาะไปตามเชิงผาเลียบไปกับลำน้ำแควน้อย โดยจะวิ่งเลียบผ่านและจอดที่สถานีถ้ำกระแซเวลา 13.30 น. ซึ่งหากใครขับรถมาชม ด้วยตัวเองเองก็มารอที่ถ้ำกระแซและควรมาก่อนช่วงเวลาซักเล็ก น้อย ปัจจุบันทางรถไฟสายนี้สุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือสถานีน้ำตก ระยะทางจากสถานีกาญจนบุรีถึงสถานีน้ำตกเป็นระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร
อ้างอิง:https://www.paiduaykan.com/province/central/kanjanaburi/railway.html
4.สุสานทหารสัมพันธมิตร
ที่แห่งหนึ่งที่ให้ความรู้สึกถึงความโหดร้ายของสงคราม ที่รำลึกแด่ทหารผู้เหนื่อยล้าและหลับไหลอย่างสงบในที่สวยงามแห่งนี้ …สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก” หรือ “สุสานทหารสหประชาชาติ” หรือที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีทั่วไปเรียกว่า “ป่าช้าอังกฤษ” เป็นสุสานขนาดใหญ่บนพื้นที่ 17 ไร่ บรรจุศพเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะถึง 6,982หลุม โดยเชลยศึก 300คนเสียชีวิตด้วยอหิวาตกโรคและฝังไว้ที่ค่ายนิเกะ(ประมาณ 15 กิโลเมตร ก่อนถึงด่านเจดีย์สามองค์) ส่วนที่เหลือได้จากหลุมฝังศพเชลยศึกตามค่ายต่างๆและยังมีสุสานช่องไก่ ซึ่งรัฐบาลไทยและฝ่ายสัมพันธมิตรได้ตกลงกันเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2497 เพื่อสร้างสุสานสองแห่งนี้ขึ้น บรรยากาศในสุสานเงียบสงบและร่มรื่น พื้นที่ภายในได้รับการตกแต่งอย่างเป็นระเบียบสวยงาม เหนือหลุมฝังศพทุกหลุมมีแผ่นทองเหลืองจารึก ชื่อ อายุ และประเทศของผู้เสียชีวิต บรรทัดสุดท้ายเป็นคำไว้อาลัยที่โศกเศร้า ทุกปีจะมีวันที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตเฉพาะของคนชาติต่างๆ
สุสานเป็นพื้นที่โล่ง หลุมศพได้รับการจัดวางอย่างเป็นระเบียบ (ไม่ควรเดินข้ามหลุมศพและควรเข้าชมอย่างสงบ)
เหนือหลุมฝังศพทุกหลุมมีแผ่นทองเหลืองจารึก ชื่อ อายุ และประเทศของผู้เสียชีวิต บรรทัดสุดท้ายเป็นคำไว้อาลัยที่โศกเศร้า ระหว่างหลุมศพปลูกด้วยดอกไม้ประดับสวยงาม ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
อ้างอิง:http://kanchanaburi.center/
5.ต้นจามจุรียักษ์
ต้นจามจุรียักษ์ 10 คนโอบ อายุมากกว่า 100+ ปี รัศมีทรงพุ่มของต้นประมาณ 25.87 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ของร่มเงายาวประมาณ 51.75 เมตร สามารถวัดความสูงของต้นจากพื้นดินสู่ยอดได้ประมาณ 20 เมตร และความใหญ่โตที่มาพร้อมกับการแผ่กิ่งก้านสาขาสวยงามเกินคำบรรยายนี่เอง ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแทบทุกคน เมื่อเดินทางมาเยือนจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ต้องแวะเวียนไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกคู่กับจามจุรีต้นนี้ราวกับที่นี่เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองกาญจน์ไปแล้วโดยปริยาย
อ้างอิง:http://kanchanaburi.center/
6. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
เป็นน้ำตกที่สวยงาม มี 7 ชั้น ตั้งแต่ชั้นแรกถึงชั้น 4 มีระยะทางเพียง 300-750 เมตร ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป จนถึงชั้นบนสุดของน้ำตกมีระยะทางมากกว่า 1 กิโลเมตร จดได้ว่าเป็นน้ำตกที่สวยมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น มีทัศนียภาพที่สวยงาม แต่ละชั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ชั้นที่ 1 ดงว่าน ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น ชั้นที่ 3 วังหน้าผา ชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว ชั้นที่ 5ไหลจนหลง ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ ชั้นที่ 7 ร่มเกล้า แต่ละชั้นมีความสูงและความงดงามต่างกันไป
อ้างอิง:https://www.paiduaykan.com/76_province/central/kanjanaburi/huaymaekamin.html
อ้างอิง:https://thailandtourismdirectory.go.th/th/info/attraction/detail/itemid/1328
7. น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
อ้างอิง:https://thailandtourismdirectory.go.th/th/info/attraction/detail/itemid/80185
อ้างอิง:http://kanchanaburi.center/
8.เหมืองปิล๊อก
บ้านอีต่อง เป็นที่ตั้งของเหมืองปิล็อก ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต เมื่อราวปี พ.ศ. 2483 เหมืองขุดแร่ดีบุกที่มีคนงานร่วม 600 คน จนราคาแร่ทั่วโลกตกต่ำ ผลจากการตัดราคาของแร่จากจีน ประมาณปี พ.ศ. 2527-2528 ความรุ่งโรจน์ของการขุดแร่ได้จบลง ปิล๊อกที่เคยรุ่งเรือง มีตลาดที่เฟื่องฟู เคยมีโรงภาพยนตร์ถึง 2 โรงก็เงียบเหงา เหมืองแร่ต่างๆ ที่นี่ทยอยปิดตัวลง คนงานเริ่มทยอยกลับบ้านแยกย้ายกันไป ปัจจุบันนี้รายได้หลักของหมู่บ้านอีต่องคือ การท่องเที่ยว ที่พักโฮมสเตย์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบธรรมชาติ อากาศดี อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร เมืองที่ร่ำรวยด้วยหมอก ปัจจุบันเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการมาสัมผัส ต้องเดินทางผ่าน 399 โค้งและยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆคือน้ำตกจ๊อกกระดิ่น เนินช้างศึก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
ป้ายไม้สำเร็จสำหรับเขียน ราคา 20 บ.
9.สะพานมอญ
สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเรียไปยังหมู่บ้านมอญ ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า และเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี
พิธีตักบาตรมอญ เป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวบ้านที่นี่ ทุกเช้าตรู่เวลาประมาณ 6.30 น. ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว ต่างต่อแถวเนื่องแน่น เพื่อรอใส่บาตรพระสงฆ์
แน่นอนว่าแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหลายๆแห่ง ต่างมีเจ้าหนูมัคคุเทศก์น้อย ที่จะคอยเดินเข้ามาพูดคุย บอกเล่าเรื่องราวของสถานที่เกิดของพวกเขา
10.ซาฟารีปาร์ค แอนด์ แคมป์
สวนสัตว์เปิด ซาฟารีปาร์ค กาญจนบุรี เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวสวนสัตว์ที่เราไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนในประเทศไทย น่าจะเป็นที่นี่เพียงแห่งเดียวที่เราสามารถได้ให้อาหารสัตว์แบบใกล้ชิดอารมณ์คล้ายกับนั่งรถส่องสัตว์ในแอฟริกาที่เราจะเห็นสัตว์น้อยใหญ่อยู่ใกล้เพียงนิดเดียว
มีเสือแล้วก็ต้องมีสิงโตเป็นของคู่กัน ผ่านมาอีกโซนก็เป็นที่อยู่ของสิงโต มีอยู่หลายตัวมากค่ะ ตัวแรกเห็นพวกเราก็หันมามองใหญ่เลย แต่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะมาสิ่งไล่รถหรืออะไรนะคะ สัตว์ทุกตัวในนี้ค่อนข้างเชื่องและคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว เพรามีมาชมแบบนี้ทุกวัน ลักษณะนิสัยและสัญชาติญาณของความเป็นสัตว์ป่าก็น้อยลงไปด้วย
มาอีกนิดก็เจอช้าง ซึ่งให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพคู่กับช้างได้ โดยคิดราคาคนละ 100 บาท ก็ถือว่าเป็นการทำบุญให้ค่าอาหารช้างไปด้วย
เข้ามาชมการแสดงจระเข้ ซึ่งก็เป็นโชว์จระเข้ปกติในแบบที่เราเคยเห็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น